เยี่ยมชมแลกเปลี่ยนเทคนิคเชิงลึก ที่ KDL Dental Lab ห้องปฏิบัติการทางทันตกรรมชั้นนำระดับประเทศ

ยกระดับมาตรฐานงานทันตกรรมประดิษฐ์ สู่ความเป็นเลิศ

เมื่อผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางและแล็บชั้นนำ ผสานความร่วมมือเพื่อรอยยิ้มที่สมบูรณ์แบบ

มากกว่าการรักษา คือความใส่ใจในทุกรายละเอียด โดยทันตแพทย์เฉพาะทาง

เมื่อวันเสาร์ที่ 15 พฤศจิกายน 2568 ที่ผ่านมา ทพญ.วารินทร์ ประชาสุจิต หรือ หมอเอสไมล์ ทันตแพทย์เฉพาะทางด้านทันตกรรมประดิษฐ์ ประจำ คลินิกเฉพาะทางด้านทันตกรรมประดิษฐ์เอสไมล์ (A-Smile Dental Clinic) ได้เดินทางจากจังหวัดอุบลราชธานี เพื่อเข้าเยี่ยมชมแลกเปลี่ยนเทคนิคเชิงลึก ที่ KDL Dental Lab ห้องปฏิบัติการทางทันตกรรมชั้นนำระดับประเทศ
การเดินทางมาเยือนแล็บในครั้งนี้ ไม่ใช่เพียงการเยี่ยมชมทั่วไป แต่เป็นการตอกย้ำมาตรฐานการรักษาในระดับผู้เชี่ยวชาญ (Specialist Standard) ตามหลักการของราชวิทยาลัยทันตแพทย์แห่งประเทศไทย โดยยึดมั่นปรัชญาที่ว่า ความสมบูรณ์แบบของงานทันตกรรมประดิษฐ์ ไม่ได้เกิดขึ้นเพียงแค่บนเก้าอี้ทำฟัน แต่ต้องเริ่มจากความเข้าใจที่ลึกซึ้งและแม่นยำในทุกกระบวนการผลิต

ทำไมทันตแพทย์เฉพาะทาง ถึงต้องใส่ใจงานแล็บอย่างลึกซึ้ง
งานทันตกรรมประดิษฐ์ (Prosthodontics) คือศาสตร์แขนงหนึ่งที่ต้องการความละเอียดอ่อนสูงสุด ไม่ว่าจะเป็นงานพื้นฐานไปจนถึงงานซับซ้อน เช่น ครอบฟัน (Crowns), สะพานฟัน (Bridges), ฟันปลอมถอดได้ (Removable Dentures), วีเนียร์ (Veneers) ไปจนถึงงานขั้นสูงอย่าง รากเทียม (Dental Implants) และการฟื้นฟูสภาพช่องปากแบบทั้งปาก (Full Mouth Rehabilitation) เช่น All-on-4 หรือ All-on-6 

งานเหล่านี้ไม่ได้อาศัยเพียงทักษะการตรวจรักษาทางคลินิกที่แม่นยำเท่านั้น แต่ยังต้องอาศัยความเข้าใจในศาสตร์และศิลป์ของงานปฏิบัติการทางทันตกรรม (Laboratory Works) อย่างถ่องแท้

ในการเยี่ยมชมครั้งนี้ ได้มุ่งเน้นประเด็นสำคัญเพื่อรองรับเคสยากและซับซ้อน

1. ความแม่นยำในงานรากเทียมและ All-on-X (Precision in Implantology)
สำหรับคนไข้ที่สูญเสียฟันทั้งปาก การทำ All-on-4 หรือ All-on-6 (การใส่ฟันปลอมติดแน่นบนรากเทียม 4 หรือ 6 ตัว) ความแม่นยำคือหัวใจสำคัญ เราได้ตรวจสอบกระบวนการผลิตโครงสร้างโลหะและเซอร์โคเนีย เพื่อให้มั่นใจว่าจุดเชื่อมต่อ (Connection) ระหว่างรากเทียมและฟันปลอมจะแนบสนิทระดับไมครอน ลดโอกาสการเกิดโรคแทรกซ้อนในอนาคต

2. ศาสตร์แห่งวัสดุ (Material Selection)
การเลือกใช้วัสดุให้เหมาะสมกับแรงบดเคี้ยวและตำแหน่งฟัน เช่น การใช้ Lithium Disilicate สำหรับวีเนียร์ที่ต้องการความสวยงาม หรือ Monolithic Zirconia สำหรับครอบฟันและงานรากเทียมที่ต้องการความแข็งแรงสูง ทนทานต่อการแตกหัก

3. ศิลปะการเทียบสีฟันและดีไซน์ (Shade Selection & Design)
การสื่อสารเรื่องค่าสีฟัน ความสว่าง และความเข้มของสี (Value, Hue, Chroma) อย่างละเอียด รวมถึงการออกแบบรอยยิ้ม (Smile Design) ให้เข้ากับบุคลิกและโครงหน้าของคนไข้แต่ละบุคคล (Personalized Design) เพื่อให้ชิ้นงานกลมกลืนกับธรรมชาติที่สุด

4. การประสานงานไร้รอยต่อ (Specialist-Technician Collaboration)
การวางแผนงานร่วมกันระหว่างทันตแพทย์เฉพาะทางและช่างทันตกรรม (Dental Technician) เพื่อลดความคลาดเคลื่อนในการส่งต่องาน ช่วยให้สามารถแก้ไขปัญหาซับซ้อนในเคสฟันปลอมหรือรากเทียมได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ผลลัพธ์เพื่อคนไข้ ความงามที่มาพร้อมฟังก์ชันการบดเคี้ยวที่สมบูรณ์

การที่ทันตแพทย์เฉพาะทางมีความเข้าใจในกระบวนการผลิต และมีการสื่อสารที่ใกล้ชิดกับช่างทันตกรรม จะส่งผลลัพธ์โดยตรงต่อคนไข้ของเรา
• ฟังก์ชันการใช้งาน (Function) เคี้ยวอาหารได้ดี มั่นใจ ไม่ว่าจะ เป็นฟันปลอม หรือ รากเทียม All-on-X
• ความเป็นธรรมชาติ (Aesthetics) ชิ้นงานมีมิติ แสงเงา และสีสันที่เหมือนฟันจริง
• ความยั่งยืน (Longevity) ลดปัญหาการแตกหัก หรือการปรับแต่งหน้างาน ช่วยให้คนไข้ใช้งานได้อย่างยาวนาน

สำหรับท่านที่สนใจการรักษาด้วยรากฟันเทียม

หากคุณมีข้อสงสัยเกี่ยวกับสุขภาพช่องปาก สามารถนัดหมายเพื่อเข้ามาปรึกษาทีมทันตแพทย์ของเราได้ที่