ทำไมฟันถึงเสียวง่ายจัง? สัญญาณเตือนจากฟันที่คุณต้องใส่ใจ และวิธีบรรเทาอาการ

ทำไมฟันถึงเสียวง่ายจัง

เคยรู้สึก "จี๊ด" ที่ฟันขณะดื่มน้ำเย็น รับประทานของหวาน หรือแม้แต่ตอนแปรงฟันไหมคะ? อาการเสียวฟันไม่ใช่เรื่องเล็กน้อยที่ควรปล่อยผ่าน แต่เป็น "สัญญาณเตือน" ที่สำคัญจากฟันของเราว่าอาจมีปัญหาบางอย่างเกิดขึ้น เช่น ภาวะเหงือกร่น ฟันผุ หรือเคลือบฟันที่ถูกทำลาย
การเข้าใจสาเหตุที่แท้จริงจะช่วยให้เราดูแลและบรรเทาอาการได้อย่างตรงจุด บทความนี้จะอธิบายกลไกของอาการเสียวฟัน พร้อมแนะนำ 6 วิธีดูแลที่ทุกคนทำได้ง่ายๆ ค่ะ

ทำความเข้าใจอาการเสียวฟัน

อาการเสียวฟัน (Dentin Hypersensitivity) เกิดขึ้นเมื่อชั้น "เนื้อฟัน" (Dentin) ซึ่งอยู่ถัดจากเคลือบฟันถูกเปิดออก โดยปกติเนื้อฟันจะถูกปกป้องไว้ด้วยเคลือบฟันและเหงือก แต่เมื่อเกราะป้องกันเหล่านี้สึกกร่อนหรือร่นลงไป สิ่งกระตุ้นภายนอกก็จะเข้าถึงเนื้อฟันได้โดยตรง

ภายในเนื้อฟันมีท่อขนาดเล็กจำนวนมหาศาลที่เชื่อมต่อกับโพรงประสาทฟัน เมื่อมีความเย็น ความร้อน หรือแรงสัมผัสมากระทบ ของเหลวในท่อเหล่านี้จะเคลื่อนตัวไปกระตุ้นเส้นประสาท ทำให้เรารู้สึกเสียวฟันนั่นเอง

ทำความเข้าใจอาการเสียวฟัน

ทำไมไม่ควรปล่อยอาการเสียวฟันไว้?

อาการเสียวฟันเป็นสัญญาณของปัญหาอื่นๆ ที่อาจลุกลามได้

  • อาจเป็นสัญญาณของฟันผุ หากอาการเสียวฟันเกิดจากฟันผุแล้วไม่รีบอุด การผุก็จะลุกลามลึกขึ้นจนอาจต้องรักษารากฟัน
  • อาจบ่งบอกถึงโรคเหงือก หากสาเหตุเกิดจากเหงือกร่น การไม่รักษาที่ต้นเหตุก็จะยิ่งทำให้เหงือกร่นมากขึ้น เสี่ยงต่อฟันโยกในอนาคต
  • รบกวนการใช้ชีวิตประจำวัน อาการเสียวฟันทำให้ขาดความสุขในการรับประทานอาหารที่ชอบ และอาจรบกวนสมาธิในการทำงานหรือกิจกรรมต่างๆ
  • อาจเกิดจากฟันร้าวหรือแตก ซึ่งจำเป็นต้องได้รับการวินิจฉัยและรักษาโดยทันตแพทย์เพื่อป้องกันปัญหาที่ใหญ่กว่า

6 วิธีดูแลและบรรเทาอาการเสียวฟัน

การป้องกันและบรรเทาอาการเสียวฟันสามารถทำได้ด้วยการดูแลตนเองอย่างสม่ำเสมอ


สิ่งแรกที่ทำได้คือ เลือกใช้ยาสีฟันสำหรับลดอาการเสียวฟัน ซึ่งมีส่วนผสมที่ช่วยอุดท่อเนื้อฟันที่เปิดออก ทำให้ลดการส่งผ่านความรู้สึกไปยังเส้นประสาท ควรใช้เป็นประจำเพื่อให้ได้ผลดีที่สุด


ต่อมาคือ แปรงฟันให้ถูกวิธีและไม่ใช้แรงมากเกินไป ควรเลือกใช้แปรงสีฟันขนนุ่มและแปรงเบาๆ เพื่อป้องกันไม่ให้เคลือบฟันสึกและเหงือกร่น


นอกจากนี้ การใช้ไหมขัดฟันทุกวัน ก็เป็นสิ่งจำเป็นเพื่อลดการสะสมของคราบจุลินทรีย์ซึ่งเป็นสาเหตุของโรคเหงือกที่นำไปสู่ภาวะเหงือกร่นได้ รวมถึงควร หลีกเลี่ยงอาหารและเครื่องดื่มที่เป็นกรดสูง เช่น น้ำอัดลม หรือน้ำผลไม้รสเปรี้ยว เพราะกรดจะกัดกร่อนเคลือบฟัน
พฤติกรรมบางอย่างก็ควรปรับเปลี่ยน เช่น ไม่กัดหรือเคี้ยวของแข็ง ที่อาจทำให้ฟันร้าวหรือแตกได้


และวิธีที่สำคัญที่สุดคือ การพบทันตแพทย์เป็นประจำ ทุก 6 เดือน เพื่อให้สามารถตรวจหาสาเหตุที่แท้จริงของอาการเสียวฟันและให้การรักษาที่ตรงจุด ไม่ว่าจะเป็นการอุดฟัน ทาฟลูออไรด์ หรือรักษาโรคเหงือก

บทสรุป

อาการเสียวฟันไม่ใช่เรื่องที่เราต้องทน แต่เป็นสัญญาณเตือนสุขภาพช่องปากที่เราควรใส่ใจ การแก้ไขปัญหาตั้งแต่เนิ่นๆ จะช่วยให้เราไม่ต้องเผชิญกับความเจ็บปวดและปัญหาที่ซับซ้อนกว่าในอนาคต เพื่อให้สามารถรับประทานอาหารได้อย่างมีความสุขและมีรอยยิ้มที่สดใสไปอีกนานค่ะ